วาฟเฟิลไส้ทะลัก
🙏 สวัสดีค่ะ วาฟเฟิลไส้ทะลัก (waffle recipe) สูตรกรอบนอกนุ่มใน วิธีทำง่าย ๆ พร้อมคำนวณต้นทุนสำหรับทำขายในหัวข้อ Q&A ด้านล่างนะค่ะ
** วิธีทำวาฟเฟิลไส้กรอก (วาฟเฟิลฮอทดอก) ดูได้ที่ลิงค์นี้นะค่ะ ( https://youtu.be/GRXxrNfYpaI ) **
☘️ ส่วนผสม
- แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 2 ชช.
- นมสด 300 กรัม
- น้ำมะนาว 5 กรัม
- เนย/มาการีนละลาย 200 กรัม
- น้ำตาล 250 กรัม
- กลิ่นวนิลา 1 ชช.
- ไข่ไก่เบอร์ 1 3 ฟอง
- สีเหลืองไข่ไก่ 1/4 ช้อนชา
🍡 วิธีทําแป้งวาฟเฟิล
- ละลายเนยหรือมาการีนพักให้เย็น
- ร่อนแป้งและผงฟูรวมกัน พักไว้
- ทำบัตเตอร์มิลล์ โดยนำนมสดผสมกับน้ำมะนาว พักไว้ 15 นาทีขึ้นไป
- เตรียมโถตี นำน้ำตาลทราย+ไข่ไก่+กลิ่นวนิลา ตีความเร็วสูงให้เข้ากัน 3 นาที
- จากนั้นใส่แป้ง สลับกับนม โดนเริ่มต้นด้วยแป้ง และจบด้วยแป้ง ตีจนเข้ากัน
- เติมเนยสดหรือมาการีนละลายลงไป ตีให้เข้ากัน
- พักแป้งไว้อย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป
- นำแป้งมาหยอดใส่พิมพ์วาฟเฟิล ใส่ไส้ตามชอบ
📌 หมายเหตุ:
- แป้งที่ผสม สามารถทำล่วงหน้าไว้ได้
- ไส้ขนม เช่น ฝอยทอง/ลูกเกด/ไก่หยอง/ผลไม้รวม/แฮม/ไส้กรอก/มะพร้าวอ่อน/ข้าวโพด เป็นต้น
- ทาพิมพ์วาฟเฟิลด้วยน้ำมันพืช แค่ตอนก่อนหยอดน้ำแป้ง ทำรอบเดียวพอค่ะ
🌸 Q&A
(ขออนุญาตรวบรวมคำถามที่มีประโยชน์ จากความคิดเห็น YouTube ของเพื่อนๆ ค่ะ)
1. Q: น้ำแป้งวาฟเฟิล 1 สูตรทำได้กี่ชิ้นค่ะ ?
A: 1 สูตร ทำวาฟเฟิลได้ 6 ชิ้นค่ะ
2. Q: ถ้าต้องการให้แป้งนุ่มต้องเพิ่มไข่ไหมค่ะ ? / หากต้องการให้ขนมวาฟเฟิลฟูมากขึ้น เพิ่มผงฟูมากน้อยเท่าไรค่ะ ?
A: สามารถเพิ่มไข่ได้อีก 1 ฟองค่ะ / กรณีใส่ผงฟูมากไป จะทำให้ ขนมจะฝาดหรือขมได้ค่ะ เบื้องต้นรบกวนให้ลองทำตามสูตรดูก่อนนะคะ
3. Q: แป้งวาฟเฟิลที่ผสมแล้ว เก็บได้นานแค่ไหนครับ ?
A: เก็บในตู้เย็น 1 วัน ให้ใส่กล่อง หรือกระปุกที่มีฝาปิดค่ะ / นอกตู้ทำเช้า ขายบ่ายได้ค่ะ ไม่เสีย
หากเป็นไปได้ ทำสดใหม่ขายรอบต่อรอบอร่อยกว่าค่ะ
4. Q: น้ำมันทาพิมพ์เป็นน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันถั่วเหลืองครับ ?
A: น้ำมันถั่วเหลืองค่ะ (ทาพิมพ์วาฟเฟิลแค่ตอนก่อนหยอดน้ำแป้ง ทำรอบเดียวพอค่ะ)
5. Q: วาฟเฟิล ต้นทุนประมาณเท่าไหร่ ? ทำขายชิ้นละเท่าไหร่คะ ?
A: น้ำแป้งวาฟเฟิล 1 สูตร หยอดลงในพิมพ์เครื่องทำวาฟเฟิลได้ประมาณ 6 ชิ้น
– จากที่คำนวณต้นทุนวาฟเฟิล (เฉพาะน้ำแป้ง) ต่อชิ้น อยู่ที่ 6 บาท ส่วนไส้ขนมขึ้นกับปริมาณเราใส่ และต้นทุนแต่ละไส้ไม่เท่ากัน แต่โดยรวมต้นทุนต่อชิ้นประมาณ 12 – 15 บาทค่ะ
– ราคาขายต่อชิ้น 25 – 35 บาท ลองดูตามความเหมาะสมขึ้นกับปริมาณไส้ที่เราใส่ค่ะ
6. Q: ขนมยุบตัวเกิดจากสาเหตุอะไร ?
A: ขนมยังสุกไม่ได้ค่ะ
7. Q: ไส้หมูหยองทำยังไม่ให้ติดเตาคะ ?
A: ตอนเทแป้งลงในเตารอบแรก ต้องเทให้หนานิดนึงนะคะ แล้วจึงใส่ไส้ต่าง
* ถ้าใส่แป้งบางเกิน ตัวไส้กรณีเราใส่เยอะอาจจะทะลุติดพิมพ์ได้จ้า
8. Q: เราสามารถลดมาการีนแต่เพิ่มเป็นนมสดได้มั้ยค่ะ ?
A: หากต้องการลดมาการีน ต้องเพิ่มเป็นเนยสดแทนในปริมาณเท่ากันค่ะ
สารบัญ
0:00 วาฟเฟิลไส้ทะลัก (สูตรทำง่ายต้นทุนต่ำ)
0:19 ทำบัตเตอร์มิลล์ (นมสด + น้ำมะนาว)
0:44 ขั้นตอนการทำแป้ง (ส่วนของแห้ง)
1:03 บัตเตอร์มิลล์หลังจากพัก 15 นาที จะข้นขึ้น
1:23 ส่วนของเหลว (น้ำตาล + ไข่ไก่) ตีความเร็วสูงสุด 3 นาที
2:03 ใส่แป้ง(ส่วนของแห้ง) สลับ กับบัตเตอร์มิลล์ ตีความเร็วต่ำ
3:30 เติมเนยละลายที่เย็นแล้วลงไป
4:00 แป้งวาฟเฟิล ลักษณะเหมือนนมข้นหวาน
4:10 เพิ่มสีเหลืองไข่ 1/4 ชช. ลงไปเพิ่มสีสันความสวยงาม
4:25 แป้งวาฟเฟิล พักไว้ 15 นาที พร้อมรอหยอดขั้นตอนถัดไป
4:33 เตรียมไส้วาฟเฟิล
5:00 เตรียมอุปกรณ์สำหรับทำวาฟเฟิล (เครื่องทำวาฟเฟิล หรือเรียกย่อๆ ว่า พิมพ์ / ที่คีบ / ที่ตักขนมพร้อมด้าม สำหรับไว้ช่วยพยุงที่คืบเวลานำวาฟเฟิลออกจากพิมพ์)
5:04 ราคาเครื่องทําวาฟเฟิล
5:20 การทาพิมพ์ด้วยน้ำมัน และอธิบายวิธีใช้งานเพื่อถนอมตัวเคลือบพิมพ์
6:27 ไฟที่เหมาะสมในการอบ
6:50 ตัวอย่างอบชิ้นที่ 1: วาฟเฟิลไส้ฝอยทองและลูกเกด
9:15 ตัวอย่างอบชิ้นที่ 2: วาฟเฟิลไส้ไก่หยอง
10:10 ขนมสุกแล้ว ไฟเขียวจะขึ้น Ready
10:58 ดูความหนาของวาฟเฟิลไส้ทะลัก
11:35 สำหรับขายให้ลูกค้าใส่อะไรดี กล่องหรือถุง ? เพื่อเพิ่มมูลค่าควรใส่อะไรดี ?
12:18 วางกระดาษดอลลี่ เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าด้วย
12:38 วาฟเฟิลเต็มกล่อง HTP 104 พอดี
คำบรรยาย
สวัสดีค่ะ วันนี้พี่ส้มจะมาแจกสูตรวาฟเฟิลไส้ทะลัก สูตรประจำบ้านกันนะคะ
อันดับแรก เตรียมมาการีน หรือว่าเนยสดก็ได้ค่ะ เราจะมาทำบัตเตอร์มิลค์กันนะคะ
บัตเตอร์มิลค์ก็ได้แก่ นมสดผสมด้วยน้ำมะนาวนะคะ ใส่น้ำมะนาวลงไปเลยนะคะ
น้ำมะนาวใส่ 5 กรัม หรือว่าประมาณครึ่งซีกคะ ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาทีนะคะ ให้นมกับมะนาวเขาทำปฏิกริยากัน
ชั่งส่วนผสมของ ของแห้งนะคะ พักไว้นะคะ ส่วนผสมของแห้ง ในนี้ก็มีแป้งเค้ก / แป้งเอนกประสงค์ แล้วก็ผงฟูคะ
เราร่อนให้เข้าเข้ากันนะคะ จากนั้่นพักไว้ก่อนนะคะ
ผ่านไปประมาณ 15 นาที เดี๋ยวเรามาดูบัตเตอร์มิลค์ของเรากันนะคะ นี่คะ เห็นไหมคะ เขาจะข้นขึ้นนะคะ
และมีการจับตัวกันเป็นก้อนๆ แบบนี้ไม่ต้องตกใจนะคะ
ชั่งน้ำตาลทรายใส่โถตีไว้ได้เลยนะคะ จากนั้นเราเติมไข่ไก่ลงไปเลยคะ
ไข่ไก่ 3 ฟองค่ะ ใส่กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชานะคะ ตีความเร็วสูงสุดนะคะ 3 นาที
จากนั้นเราจะตีความเร็วต่ำคะ จะใส่แป้ง สลับกับ นมบัตเตอร์มิลค์
เริ่มต้นด้วยแป้ง และก็ต้องจบด้วยแป้งนะคะ ไม่งงนะคะ เดียวเราดูไปพร้อมๆ กัน
แป้งแล้วก็นมค่ะ แล้วก็แป้ง แล้วก็นมนะคะ ใส่แป้งสลับกับนมเรื่อยๆ นะคะ จนหมด
ปาดอ่างก่อนนะคะ จะเห็นว่ามีเศษผงแป้งอยู่ด้านข้างนะคะ เราปาดอ่างก่อน
ตีความเร็วต่ำคะ จากนั้นใส่เนยละลายลงไป ค่อยๆ ใส่นะคะ ค่อยๆ รินลงไป รินลงไปเรื่อยๆ เลยนะคะ
เนยจะต้องเย็นแล้วนะคะ ถ้าร้อนอยู่ไม่ได้นะคะ ขนมมันจะไม่ขึ้น
ดูเนื้อแป้งก่อนนะคะ เห็นไหมคะ จะลักษณะเหมือนนมข้นหวาน ตัวนี้คะ
เดียวเราจะเพิ่มสีเหลืองไข่ไก่ เพื่อความสวยงามนะคะ ประมาณ 1/4 ช้อนชา คนให้เขาเข้ากัน
ช่วยทำให้ขนมสวยน่ากิน ตอนที่เราอบออกมาแล้ว เทใส่ถ้วย พักไว้ 15 นาทีคะ
ระหว่างพักแป้ง เราก็มาเตรียมไส้ของวาฟเฟิลกันนะคะ ไส้วาฟเฟิล เอาตามที่เราสะดวกเลยนะคะ
อยากใส่ไส้อะไร อยากขายไส้อะไรใช้ได้หมดนะคะ
ไส้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น มะพร้าวอ่อน ลูกเกด ฝอยทอง ไก่หยอง แฮม ไส้กรอก อะไรใช้ได้หมดทุกอย่างเลยนะคะ
แล้วแต่เราดัดแปลง ช๊อกโกแลตชิปก็ใช้ได้นะคะ
อุปกรณ์ก็มีไม่มากนะคะ ได้แก่ พิมพ์ เครื่องนึงราคาประมาณไม่เกิน 1,700 บาทนะคะ
แล้วก็อีกอันนึงก็คือ นี้ค่ะ ที่คีบ จะเอาแบบมีซิลิโคน หรือไม่มีก็ได้นะคะ โอเค ที่นี่อ่ะคะ
ให้เตรียมน้ำมัน กับ แปรง ส้มไม่ได้ใช้เนยหรือมาการีนในการทาพิมพ์นะคะ
ใช้น้ำมันพืช เหตุผล เพราะว่า พิมพ์เขานี้ค่ะ มันจะมีจุด เขาเรียกว่าจุดหลอมเหลว ถ้าเราทาเนยหรือมาการีนไป มันจะมีจุดหลอมเหลวต่ำอยู่
จะทำให้พิมพ์ เทปล่อนที่เคลือบอยู่ถลอกหรือว่าเสียได้ง่าย
วอร์มเตาให้ร้อนก่อนนะคะ จากนั้น ทาน้ำมันบางๆ ให้ทั่วพิมพ์เลย ทาที่ฝาด้านบนด้วยนะคะ
เดี๋ยวเราจะวอร์มเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ก่อน ไฟ จะขึ้นสถานะจะขึ้นสีแดงตอนนี้ ที่หน้าเครื่องนะคะ ปรับไฟไม่เกินเบอร์ 2
พิมพ์ร้อนได้ที่แล้ว เราตักแป้งวาฟเฟิลใส่ลงไปตรงกลาง เติมไส้คะ ไส้แล้วแต่เราใส่นะคะ
อันแรก จะเป็นฝอยทองกับลูกเกด หยอดแป้งวาฟเฟิลทับไส้ลงไปเลยคะ เกลี่ยน้ำแป้งให้เต็มพิมพ์ ปิดฝาเลยนะคะ
ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาทีครึ่ง สังเกตที่หน้าเครื่องทำวาฟเฟิล ไฟเขียวจะขึ้น ไม่ต้องเปิดฝานะคะ
ค่ะ ขึ้นสีเขียวแล้วนะคะ ที่ด้านหน้า แป้งเขาสุก เราจึงมาเปิดดูกันนะคะ ชะแว๊บบ
วาฟเฟิลคะ มาดูนะคะว่าหนา ฤ ป่าว ? นี่นะคะ ค่อยๆ แซะเบาๆ พับครึ่งเลยคะ จากนั้นกดลงเลย
จากนั้นจะนำ วาฟเฟิลไปพักไว้บนตะแกรง ให้เย็น นี้ค่ะ ชิ้นที่ 1 เรียบร้อยแล้ว
ทำไปเรื่อยๆ นะคะ จนแป้งหมด ขนมสุกแล้วนะคะ ไฟเขียวขึ้นแล้ว พับครึ่งเลยนะคะ ดูความหนานะคะ หนาม๊ากก
เดียวเราจะมาเรียงขนมใส่กล่องกันนะคะ สำหรับขายให้ลูกค้า จริงๆ เราสามารถใส่ถุงก็ได้
ปกติจะใส่ถุง 6×10 นิ้ว แต่ว่ามันจะไม่สวยนะ มูลค่าเราก็จะ เพิ่มได้ยากส์ นิดนึง
ถ้าใส่กล่อง มันก็จะดูดี กล่องที่ใช้ก็จะเป็นกล่องที่ชื่อว่า HTP 104 ไม่แน่ใจว่าน้องเห็น หรือเปล่า ?
นี้คือ 104 ซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ หรือว่าร้านขายแก้วน้ำ แก้วกาแฟ อะไรอย่างนี้ น่าจะมีขายนะคะ
จะเป็นกล่องใหญ่ ที่กล่องจะวางกระดาษลูกไม้ หรือว่า กระดาษดอลลี่บางๆ มันจะได้สวยงาม
จากนั้นคีบขนม ใส่กล่องให้ลูกค้า กดเขานิดนึงนะค่ะ ก็จะเต็มกล่องพอดี นี่ จะใหญ่ เบอเร่อ ค่ะ
อย่าลืมไปทำทาน หรือว่า ทำขายกันนะคะ หากน้องสงสัย หรือว่ามีปัญหาตรงไหน
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้เลยนะ พี่ส้มจะรีบมาตอบให้นะคะ
🙏 ขอบคุณสำหรับการติดตามชม ขอให้สนุกกับการทำ #วาฟเฟิล ไส้ทะลักนะคะ
สูตรแนะนำ
คำค้นหาล่าสุด:
- - สูตรวาฟเฟิลมะพร้าวอ่อน (1)
- - แป้ง1โลทำวาฟเฟิลได้กี่ชิ้น (1)